MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Bookmark and Share

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Invitation to view my posts on FriendFeed

FriendFeed
Sundara invites you to try FriendFeed, where you can share and discover links, photos, videos and more!
Accept invitation
You are receiving this email because Sundara sent an invitation to beblogdesign.friday@blogger.com from http://friendfeed.com/. Opt-out of invitation request emails: http://friendfeed.com/account/optout?code=6uWl1rltc2
FriendFeed Inc., 313 W. Evelyn Ave., Mountain View, CA 94041

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กองทุนส่งเสริมความรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธาณะ

 
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์)ทำงานในพื้นที่สาธารณะมาตั้งแต่ ปี 2544 โดยระยะแรก มุ่งทำงานไปที่กลุ่มเด็กเร่ร่อน แต่เมื่อทำงานได้ระยะเวลาหนึ่ง พบว่าในพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพมหานครและเขตเมืองใหญ่ของประเทศไทย ไม่ได้มีเฉพาะเด็กที่ประสบผลกระทบจากปัญหาครอบครัวเพียงเท่านั้น แต่ยังมีบุคคลอื่น ๆ ใช้พื้นที่สาธารณะอยู่อาศัย ประกอบอาชีพ ได้แก่ คนขายของข้างถนน พนักงานบริการอิสระ และครอบครัวของผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่สาธารณะ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์)จึงได้ เริ่มทำงานกับผู้ที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในกลุ่มต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบัน เราทำงานใน สองกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พนักงานบริการอิสระ และครอบครัวที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ โดยเน้นการใช้กระบวนการพูดคุย ให้ความรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของทั้งสองกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการได้รับบริการจากรัฐสวัสดิการอย่างทัดเทียมพลเมืองคนอื่น ๆ และท้ายที่สุด การได้คืนกลับสู่ครอบครัวและภูมิลำเนา มีอาชีพที่เพียงพอแก่การยังชีพ หรือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองกลุ่มเป้าหมาย
การดำเนินงานดังกล่าวสมาคมฯมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงานอย่างต่อนเนื่องแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนโครงการจากภาครัฐอยู่บ้างในบางช่วงเวลา แต่ในขณะที่การดำเนินงานต้องมีความต่อเนื่อง จึงทำให้จำเป็นต้องมีกองทุนสำหรับสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) มีแผนระดมทุนเพื่อเป็นกองทุนสำหรับรองรับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนนี้ จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพ ทุนสำหรับส่งกลับภูมิลำเนา ทุนสำหรับช่วยเหลือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทุนสำหรับประกอบพิธศพตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
โดยตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมาสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้รับการสนับสนุนเงินเพื่อช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวจาก อาสาสมัคร และประชาชนผู้สนใจโดยทั่วไปคนละเล็ก คนละน้อยอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นจำนวนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับปัญหาที่ยังจะต้องดำเนินการแก้ไขกันต่อไป แต่ก็สามารถสะท้อนภาพความช่วยเหลือจากคนเล็กคนน้อยในสังคมได้เป็นอย่างดี และในปี 2552 เป็นต้นไป คณะทำงานของ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้มีมติร่วมกัน ที่จะยกระดับการขอรับการช่วยเหลือขึ้นเป็นกองทุนเพื่อรองรับการทำงานที่จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากใครสนใจจะร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ผ่านกองทุนนี้ ก็สามารถทำได้ โดยร่วมบริจาค เป็นยาสามัญประจำบ้าน เสื้อผ้าที่อยู่ในสภาพดี ขนม อาหารแห้ง หรือแม้กระทั่งงบประมาณเพื่อสนับสนุนในการทำงานของ สมาคมฯ
สามารถช่วยเหลือสนับสนุนได้
ผู้มีความประสงค์จะสนับสนุนกิจกรรมในครงการต่าง ๆ ของสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน สามารถทำได้ โดยการ
โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาปิ่นเกล้า ชื่อบัญชี สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เลขที่บัญชี 031 - 0 - 03432 -9
หรือบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขา ปิ่นเกล้า ชื่อบัญชี สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เลขที่บัญชี 706 - 2- 33411 -2
บัญชีเงินฝาก สะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขา มีนบุรี ชื่อบัญชี สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เลขที่บัญชี 145 - 5 -24762 -5

ทุนที่คุณสนับสนุนเราเพียงคนละไม่มาก แต่ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อคนด้อยโอกาสได้จำนวนไม่น้อย อยู่ที่คุณกล้าที่จะให้เพื่อคนด้อยโอกาสหรือไม่เท่านั้น หรือสามารถติดต่อมาได้ที่

สำนักเลขาธิการ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) 50/357 หมู่บ้านพนาสนธิ์วิลล่า 2 ถนนนิมิตใหม่ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510 โทรศัพท์ประสานงาน 086 687 0902 โทรสาร 02 914 5146
ยามหลับไหลที่นอนเรียงรายกั
รถโมบายที่ปรับปรุงใหม่เริ่มทำงานในวันแรก
น้อง ๆ นั่งคุยกับ พี่จุกที่ใช้ชีวิตที่สนามหลวงมาเกือบ 30 ปี ที่สนามหลวงยังเป็นตลาดนัด

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.media4democracy.com/th/
http://www.youngtelecom.org/
http://www.logex.kmutt.ac.th/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
http://www.isriya.com/node/2809
/wordcamp-bangkok-2009-pool-party
C:\Documents and Settings\user\My Documents\ไฟล์ที่ได้รับของฉัน\issarachon1101.wma
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hiansoon

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Facebook | นที สรวารี: ข้อสรุปวันนี้ จากวงเสวนา

Facebook | นที สรวารี: ข้อสรุปวันนี้ จากวงเสวนา


ข้อสรุปวันนี้ จากวงเสวนา



การประชุม “แนวทางการทำงานเพื่อคนไร้ที่พึ่ง : รองรับมาตรการปิดสนามหลวงและกวาดล้างขอทานของกรุงเทพมหานคร”
ครั้งที่ 1 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13:00 – 16:30 น.

จำแนกผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ
คนไร้บ้าน
เด็กเร่ร่อน
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ผู้ป่วยอัลไซเมอร์
คนวิกลจริต
คนทำงานที่ใช้ที่สาธารณะพักผ่อนนอนหลับชั่วคราว
คนเร่ร่อน
คนเร่ร่อนไร้บ้าน
ผู้ติดสุรา
ผู้ป่วยจิตเภท
คนจนเมือง
พนักงานบริการ
ผู้พ้นโทษ
ข้อเสนอในมติที่ประชุมคือ
1. ให้ กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพ ในการคัดกรองคนในพื้นที่สนามหลวง ก่อนที่จะส่งเข้ารับการช่วยเหลือ บ้านพัก หรือส่งต่อในหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ มีการส่งต่ออย่างเป็นระบบ นึกถึงสิทธิมนุษยชน สิทธิสภาพ หลักมนุษยธรรม
2. ในกลุ่มที่เร่งด่วนที่ควรเข้ามาดูแล ผู้ป่วย ซึ่งได้แก่ กลุ่มผู้มีอาการทางสมอง ไม่ว่าจะเป็น วิกลจริต สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ฯลฯ พิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และหาเจ้าภาพมาดูแล
3. ในคณะทำงานกรุงเทพมหานคร มีคณะทำงานในด้านครอบครัวเร่ร่อน เด็กเร่ร่อน คนเร่ร่อน แต่ยังไม่พบว่าคณะนี้เกิดการเคลื่อนการทำงาน คงต้องให้หน่วยงานนี้มาเร่งการทำงานเพื่อหาแนวทางที่ร่วมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4. ในกลุ่มคนไร้บ้าน ต้องฟื้นฟู การปรับกระบวนการคิดและพัฒนาอาชีพ “เน้นการพึงพาตนเอง” ให้ได้ เน้นการพัฒนา มากกว่าเน้นการสงเคราะห์
5. ต้องช่วยกันในการผลักดัน พรบ.คนไร้ที่พึ่ง ให้ออกมาใช้งานได้เร็ว เพราะจะช่วยให้กลไกการทำงาน คนไร้ที่พึ่ง ในประเทศไทย ได้มีกลไกการทำงานรองรับ มีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
จะปรับปรุงสนามหลวง

JasMin Jaja ร่วมแบ่งปัน อังเปาเพื่อการทำงานที่ต่อยอดการทำงานให้คนเร่ร่อนไร้บ้าน




JasMin Jaja ร่วมแบ่งปัน อังเปาเพื่อการทำงานที่ต่อยอดการทำงานให้คนเร่ร่อนไร้บ้าน


บันทึกของ JasMin|บันทึกเกี่ยวกับ JasMin|
ในปีนี้เป็นวันดีที่วันตรุษจีนและวันวาเลนไทน์ มาตรงกัน หลาย ๆ ครอบครัวได้ทำบุญและมอบความรักให้กัน จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจมามอบความรัก ให้เพื่อนมนุษย์ร่วมกันในอีกมุมหนึ่งตาม้องถนน หรือในสวนสาธารณะ ที่สังคมคิดว่าเขาน่ากลัว แต่เขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด เขาแค่ต้องการเพื่อน ต้องการการเยียวยา ฟื้นฟู ทั้งที่ภาครัฐไม่ค่อยให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้ มองเพียงแค่เป็นปัญหาที่ต้องจัดการให้หาย ๆ ไป อยากเชิญวนมาทำบุญในวันตรุษจีน ในการแบ่งอังเปาสนับสนุน ในเรื่องของ กองทุนยา กองทุนอาหาร กองทุนฝในการส่งคนไร้บ้านคืนสู่ถิ่น และกองทุนในการลงทำงานกับคนไร้บ้าน
ติดต่อได้ที่ คุณอัจฉรา 086-6282817 หรือร่วมบริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทย เลขบัญชี 031-0-03432-9 หรือ ธ.กรุงเทพ เลขบัญชี 145-5-24762-5 ชื่อบัญชีสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน

ด้วยจิตศรัทธามั่นแลคาราวะ
แบ่งปันกันสักนิด เพื่อคนที่เขาต้องการความรักและการมองเห็นจากสังคม
รถโมบายในยามที่พระอาทิตย์ตกดิน
ปรับปรุงเมื่อวันพุธ

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog

แถลงการณ์สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เรื่อง ประนามพฤติกรรมการใส่ร้ายป้ายสีของนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์

วันนี้ เวลา 9:25
แถลงการณ์สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน
เรื่อง ประนามพฤติกรรมการใส่ร้ายป้ายสีของนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์

เมื่อวันที่ 12/02/10 เวลา 05.25 น. วิทยุ FM 102 รองผว.กทม.ธีระชน ฯ พูดเรื่องสวนหย่อมโบ๊เบ๊ แล้วเลยมาพูดเรื่อง อพยพคนสนามหลวงไม่ได้ เพราะมีองค์กรเอกชนเล็กๆ คัดค้านเพราะหวังรับเงินบริจาคจากต่างประเทศ หากไม่มีคนสนามหลวงจะไม่ได้รับเงินบริจาคจากต่างประเทศ
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณะประโยชน์) เป็นองค์กรอาสาสมัครที่ทำงานในพื้นที่สนามหลวงกับ ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินบริจาคจากคนไทย 100% ไม่เคยรับเงินจากต่างประเทศแม้สตางค์แดงเดียว ด้วยเพราะปรัชญาการทำงานที่เชื่อมั่นในความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันในสังคมไทยเป็นสำคัญ
การออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในสื่อสาธารณะตามที่ปรากฎแล้วนั้น เข้าข่ายการใส่ร้ายป้ายสี มีเจตนาให้สาธารณชนมีความเข้าใจผิด เกลียดชัง สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน ในฐานะองค์กรขนาดเล็ก ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ขอประนามการกระทำดังกล่าวของนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ และขอเรียกร้องให้ ทบทวนความคิดดังกล่าว ออกมากล่าวขอโทษต่อสาธารณชน ผ่านสื่อสาธารณะโดยเร็วที่สุด

ประกาศมา ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์)

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นายกฯให้ก.วิทย์ฯทดสอบ เตือนระวัง"BEDD1"ซ้ำรอย



วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 07:02:14 น. มติชนออนไลน์

รมต.แหยงไม่กล้าเป็นเจ้าภาพพิสูจน์"จีที200" นายกฯให้ก.วิทย์ฯทดสอบ เตือนระวัง"BEDD1"ซ้ำรอย

ครม.ปิด ห้องซักผู้แทน"ทบ." ละเอียดยิบ เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นจีที 200 "พีระพันธุ์-บุญจง" ตีปี๊ปดีจริงมีแต่คำขอจัดซื้อเพิ่ม นายกฯ ถามใครอยากผ่าพิสูจน์ ทั้งครม.เงียบไม่กล้าเป็นเจ้าภาพ ด้านนักวิชาการรุมสวดเครื่องไร้น้ำยา ชี้ รบ.ถูกหลอก เตือนระวังรุ่นใหม่ "BEDD1" กำลังนำเข้ามา

ครม.ปิดห้องซักผู้แทน"ทบ."ยิบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเครื่องตรวจจับ วัตถุระเบิดรุ่นจีที 200 จากทุกหน่วยงานที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเริ่มต้นขึ้น มีการเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพาวุธทหารบก กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก รองเสนาธิการทหารบก ฯลฯ มาร่วมชี้แจงข้อมูลและตอบข้อซักถามของ ครม. กรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นจีที 200


จากนั้นบรรดารัฐมนตรีต่างให้ความสนใจซักถามผู้แทน ทบ.ที่ยืนยันเครื่องจีที 200 มีความแม่นยำมากกว่าร้อยละ 80 เคยเกิดความผิดพลาดใช้งานที่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพียง 2 ครั้งคือที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา และที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส


ทำให้ รมว.พลังงานยิงคำถามว่าหากเปรียบเทียบระหว่างสุนัขดมกลิ่นกับเครื่องจีที 200 อันไหนมีประสิทธิภาพมากกว่า ผู้แทน ทบ.ชี้แจงว่าการใช้สุนัขดมกลิ่นมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากมีขั้นตอนในการดูแลสุนัขกว่าจะใช้งานได้ อีกทั้งยังสามารถทำหน้าที่ได้เพียงคราวละ 2 ชั่วโมงและต้องหยุดพัก จึงเหมาะแก่การใช้งานในระยะใกล้ๆ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิยมใช้เครื่องจีที 200 สแกนพื้นที่ต้องสงสัยก่อนให้สุนัขเข้าไปดมกลิ่น ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่คนละวัตถุประสงค์


เผยรมต.ไม่กล้าเป็นเจ้าภาพ


ขณะที่รัฐมนตรี 2 คนคือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย อภิปรายสนับสนุนประสิทธิภาพด้านบวกของเครื่องจีที 200 โดยได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าใช้การได้ดี และมีแต่คำขอให้จัดซื้อเพิ่มเติม อย่างแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็บอกว่าใช้งานได้ดี หากมีปัญหาจริง ก็น่าจะมีข่าวออกมาบ้างเพราะมีลูกค้าอยู่หลายประเทศ


รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางประมาณ 30 นาที นายอภิสิทธิ์กล่าวสรุปว่า "ควรต้องพิสูจน์ และถามมีใครอยากทำหน้าที่ตรงนี้บ้าง"


แต่ไม่ปรากฏว่ารัฐมนตรีคนใดแสดงความจำนงขอรับเป็นเจ้าภาพในการผ่า พิสูจน์เครื่องดังกล่าว นายอภิสิทธิ์จึงตัดบทว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถ้าผลออกมาว่าใช้งานได้ก็จะใช้ต่อไป แต่ถ้าผลออกมาว่าใช้ไม่ได้ก็ต้องยกเลิก แต่ในระหว่างนี้ให้ฝ่ายปฏิบัติใช้เครื่องจีที 200 ตามปกติไปก่อน"

"มาร์ค"โยนก.วิทย์ทดสอบจีที200


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมครม.ว่า "ได้ คุยกับคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ โดยตรงว่า จะต้องเชิญนักวิชาการที่ทำงานด้านนี้มาออกแบบการทดลองเพื่อการพิสูจน์ถึง ประสิทธิภาพข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้ให้เป็นข้อยุติที่เป็นที่ ยอมรับจากทุกฝ่าย เมื่อมีข้อยุติแล้วรัฐบาลจะได้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมต่อไป"นายกฯกล่าว และว่าลักษณะการทดสอบต้องเป็นเหมือนกับจำลองสถานการณ์จริง และต้องดูว่าการใช้อุปกรณ์นี้ต่างจากการไม่มีอุปกรณ์แค่ไหน


ผู้สื่อข่าวถามว่ากำหนดระยะเวลาพิสูจน์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าให้ไปทำโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อการทำงานของหน่วยงานที่ใช้อุปกรณ์นี้ สิ่งแรกต้องไปเชิญผู้เกี่ยวข้องมาเพื่อออกแบบการทดลองเพื่อพิสูจน์ที่ทุก ฝ่ายยอมรับ หากไปทดสอบแล้วฝ่ายที่อ้างว่าใช้ไม่ได้หรือการทดลองดังกล่าวใช้ไม่ได้ก็จะ เถียงกันไม่จบอีก ดีที่สุดต้องเชิญนักวิชาการมา ส่วนฝ่ายที่ใช้งานที่ยืนยันว่าใช้ได้ต้องพร้อมพิสูจน์ถ้ามั่นใจว่าใช้ได้มัน ก็ต้องใช้ได้

เมื่อถามว่า ถ้าผลพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้จะยกเลิกใช้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรใช้อยู่แล้ว เพราะจะเป็นผลเสียต่อทุกฝ่าย ส่วนจะหาอุปกรณ์อื่นมาทดแทนนั้นก็ต้องไปดูทางเลือกอื่นๆซึ่งอุปกรณ์ที่เป็น ที่ยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพสูงกว่าหรือเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วราคาจะสูง กว่ากันประมาณ10 เท่า ส่วนจะมีทางอื่นนอกจากจะต้องซื้อเทคโนโลยีที่สูงกว่าจีที 200 หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าถ้าจะใช้อุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติหรือมีคุณลักษณะอย่าง นั้นก็คงไม่มี จะมีแต่ว่าจะเลือกไม่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้แล้วก็ต้องใช้วิธีอื่นไป


เมื่อถามว่าปัญหาจีที 200 เป็นภาพสะท้อนการใช้งบประมาณที่รั่วไหลไปกับการทุจริตด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าเร็วเกินไปที่จะไปสรุป ที่ไปพบกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านยาเสพติดบอกว่าใช้ได้ผล เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ ส่วนจะตรวจสอบไปถึงเรื่องราคาที่ซื้อแตกต่างกันแต่ละหน่วยงานหรือไม่นั้น ถ้าเห็นว่ามีการซื้อในราคาที่ไม่ถูกต้องก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่การซื้อเท่าที่ดูจากตัวเลขจะซื้อมาตั้งแต่ประมาณปี 2549 ต่อเนื่องถึงปี 2553 ราคาจะแตกต่างกันเพราะแต่ละหน่วยงานจะใช้ของไม่ตรงกัน

"ที่จัดซื้อมาใช้ทั้งหมดประมาณ 700 กว่าเครื่อง ราคาที่จัดซื้อถ้าเป็นอัลฟ่า-6 ใหม่ ประมาณเครื่องละ 300,000 บาท แต่ที่ซื้อสูงสุดไปเครื่องละ 1.2 ล้านบาท ก็จะมีราคาตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 1.2 ล้านบาท ตรวจสอบไปทีละขั้น ขณะนี้ตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ก่อนและจะไปไล่ดูว่าการขอจัดซื้อจัดจ้าง แต่ละช่วงเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาทำถูกต้องตามระเบียบมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่"นายกฯระบุ


เมื่อถามว่าจะต้องมีคนรับผิดชอบกับงบประมาณที่เสียไปจากการจัดซื้อ อุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้ยังสรุปไม่ได้ ขอให้พิสูจน์ทดสอบก่อน เมื่อถามว่าล่าสุดนักวิชาการบางรายระบุว่าเป็นเรื่องของพลังจิตที่ต้องใช้ กับจีที 200 ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมถึงบอกว่าการทดสอบที่ดีที่สุดคือการเทียบสถานการณ์ที่ใช้ไม่ใช้อุปกรณ์ นี้ ผมก็ไม่ทราบว่าจิตไม่จิตนี่มันวิทยาศาสตร์หรือไม่"

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงมาตราการสำคัญที่สุดว่า ต่อไปนี้ถ้าจะมีการซื้ออุปกรณ์ใดๆก็ตามควรจะต้องเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการ พิสูจน์แล้ว เมื่อถามว่ากองทัพเองจะยอมรับหรือจะดึงดันเพราะหากยอมรับเท่ากับการจัดซื้อ ผิด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมคิดว่าอย่าเพิ่งไปพูดว่าจัดซื้อหรือไม่ผิด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน บางทีมารู้ทีหลังก็ไปตัดสินย้อนกลับไป ก็ต้องนึกถึงว่าในสถานการณ์นั้นเขารู้อะไรบ้างแค่ไหนอย่างไร"

ที่พรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่ากระทรวงฯจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด มีตนเป็นประธานฯ จะเชิญคณะกรรมการที่มาจาก 2 กลุ่มคือ 1.นักวิทยาศาสตร์และวิศวกร และ 2.ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องทั้งทหาร ตำรวจ ปปส. โดยผู้ที่เกี่ยวข้องนี้จะไปทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งก่อนที่จะออกไปทดสอบประสิทธิภาพจะต้องมีการร่างกระบวนการที่จะทดสอบว่า มีขั้นตอนอย่างไร โดยจะเชิญนักสถิติจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการเสื่อสาร(ไอซีที) เข้ามาร่วมด้วย คาดว่าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ คงทราบว่า ขั้นตอนการตรวจสอบภาคสนามที่ทุกคนเห็นชอบจะเป็นอย่างไร และได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า

นักวิชาการรุมชี้จีที200 ใช้ไม่ได้


วันเดียวกันที่อาคารมหามกุฎ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา "หลักการทางวิทยาศาสตร์ของเครื่องตรวจวัดวัตถุระเบิดและสารเสพติด" โดยนายถิรพัฒน์ วิลัยทอง จากศูนย์ความเป็นเลิศทางฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าเครื่องจีที 200 ไม่สามารถพิสูจน์ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้ ก็ไม่น่าจะใช่เครื่องมือที่ใช้การได้ หลักการที่ตรวจทางฟิสิกส์ มี 3 อย่าง คือ ตรวจด้วย นิวตรอนหรือกัมมันตภาพรังสี ด้วยโฟรตรอนหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและตรวจด้วยเทคนิคเอ็กซเรย์เหมือนกรณีซี ที-เอ็กซ์ แต่จีที 200 ไม่มีหลักการทั้ง 3 ประการเลย ถ้าใช้งานได้จริง คนผลิตสมควรได้รับรางวัลโนเบล


นายกว้าน สีตะธนี รองผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า ถ้ามองน้ำหนัก ขนาด ของจีที 200 แล้ววัดในระยะ 700 เมตร เป็นเรื่องควบคุมได้ยาก ยิ่งใช้ไฟฟ้าสถิตจากคนยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย อยากให้ผู้ผลิตออกมาเปิดเผยเพื่อตรวจสอบ ซึ่งภายใน 1-2 วัน น่าจะมีความชัดเจนเกิดขึ้น หลังจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯเป็นเจ้าภาพตรวจสอบ


ไทยถูกต้ม-ระวัง "BEDD1" มาอีก


ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะนี้น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่าเครื่องจีที 200 เป็นเครื่องมือลวงโลกที่บริษัทต่างชาตินำมาขายให้ประเทศไทยและมีอีก 20 กว่าประเทศที่ต้องถูกหลอกด้วย เนื่องจากตัวเครื่องจีที 200 ไม่มีอะไรเลย แม้ที่ผ่านมาจะมีการพิสูจน์ภาคสนามโดยกองทัพที่ จ.ราชบุรี แต่น่าจะเป็นการเตี๊ยมกันมากกว่า เพราะปกติเวลาตรวจวัตถุระเบิดหรือสารเสพติด ทั้งทหารและตำรวจมีสายรายงานอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีตำรวจและทหารทำงานในภาคใต้ โทรศัพท์มาขอบคุณที่ออกมาเปิดเผยความจริงถึงความไม่มีประสิทธิภาพของเครื่อง ดังกล่าว


"เร็วๆ นี้ จะมีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติดชนิดใหม่ ถูกนำเข้ามาอีกคือ BEDD1 ผลิตโดย Unival Group ประเทศเยอรมนี ขอให้นายอภิสิทธิ์ตรวจสอบให้ดี จะได้ไม่ถูกหลอกเหมือนเครื่องจีที 200 ส่วนการที่คณะรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโดยให้กระทรวงวิทยา ศาสตร์ฯเป็นเจ้าภาพ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะความจริงจะได้กระจ่าง" ผศ.ดร.เจษฎากล่าว


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1265112278&grpid=04&catid=04